สูตรสมุนไพรแก้ปวดเมื่อยคอ


   อาการตกหมอนหรือคอเคล็ด ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องไม่รุนแรงนัก แต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะเวลานอนถือว่าเป็นเวลาพักผ่อนที่มีค่ายิ่งของคนเรา นอกจากการได้นอนหลับลึกหลับสนิทตามแบบฉบับของชีวจิตแล้ว การที่เราจะตื่นขึ้นมาเจอเช้าวันใหม่ที่สดใสโดยปราศจากความปวดเมื่อยก็เป็น อีกเรื่องที่ดีไม่น้อยใช่ไหมคะ หากคุณเคยมีประสบการณ์นอนตกหมอน คงรู้ซึ้งถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ เพราะเรามีวิธีธรรมชาติบำบัดอาการปวดคอ เหตุจากนอนตกหมอนมาฝากกัน แต่ก่อนอื่นเราควรรู้วิธีป้องกันไว้ก่อนดังนี้ค่ะ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
  • เปลี่ยนหมอนหนุนให้เหมาะสม ไม่สูงหรือเตี้ยเกินไป ทดลองนอนดู ควรใช้หมอนที่มีความยืดหยุ่นเหมาะสม รับกับต้นคอพอดี หรืออาจจะใช้หมอนหนุนเฉพาะคอ ไม่หนุนศีรษะ หมอนดังกล่าวนี้อาจจะหาซื้อได้ หรือใช้หมอนข้างอันเล็กๆ มาหนุนแทน หมอนพิเศษนี้จะทำให้ศีรษะอยู่ในท่าพักตลอดเวลาที่เรานอน
  • สำรวจท่านอนที่ถูกลักษณะ สังเกตท่านอนที่เป็นธรรมชาติที่สุด ทั้งท่านอนหงายและท่านอนตะแคง ถ้าปกติคุณนอนคว่ำ ลองเปลี่ยนท่าเป็นนอนหงายบ้าง เพราะอาการตกหมอนมักจะเกิดได้ในเวลาที่เราหลับสนิทอยู่ในท่าเดียวนานเกินไป ได้
  • ปรับอิริยาบถให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะยืนหรือนั่ง พยายามให้หู ไหล่ และสะโพกอยู่ในแนวเดียวกันเพราะอาการปวดคอส่วนใหญ่เกิดจากท่าทางที่ไม่ถูก ต้อง ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงเครียด เช่น ถ้าต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ปรับจอให้พอดีโดยคุณไม่ต้องก้มหน้าหรือเงยหน้าตลอดเวลาที่ใช้งานอยู่
  • อย่าหนีบหูโทรศัพท์ไว้ตรงซอกคอ เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอของคุณอ่อนล้าและคอเคล็ดได้ ถ้าต้องคุยโทรศัพท์บ่อยๆ ควรใช้หูฟังแทน
  • หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งมีส่วนทำให้คุณปวดคอได้จากการที่กระดูกสันหลังต้องกระดกขึ้นส่งผลให้คอของคุณยื่นไปด้านหน้า
  • ผ่อนคลายก่อนเข้านอน การเข้านอนในขณะที่ยังมี ความเครียดอยู่ เมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า อาจทำให้ปวดต้นคอได้ ดังนั้น ก่อนเข้านอนควรอาบน้ำให้สะอาด ผ่อนคลายด้วยการหายใจเข้าหายใจออกลึกๆ เมื่อร่างกายเริ่มสบายขึ้นก็เข้านอนได้
     แต่ถ้ามีการตกหมอนแล้วจะทำอย่างไร เรามีวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้มาแนะนำค่ะ
สมุนไพรแก้ปวดเมื่อยคอ

   อาการปวดเมื่อยคอที่เกิดจากการนอนตกหมอนหรือภาวะความเครียด สามารถใช้สมุนไพรที่ออกฤทธิ์ผ่อนคลายช่วยได้ นอกจากการใช้สมุนไพรธรรมชาติจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยแล้ว ยังช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย เพื่อแก้ไขความเจ็บป่วยของอวัยวะต่างๆ ได้อย่างดี เริ่มต้นด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้
  • ใช้ใบพลับพลึงลนไฟให้ร้อนจนใบนิ่ม นำมาพันบริเวณที่ปวดคอ ทำวันละ 1-2 ครั้ง ด้วยสรรพคุณทางยาของใบพลับพลึง จึงช่วยแก้อาการปวดเมื่อยและเคล็ดขัดยอกได้
  • ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงาทาถูนวดเบาๆ บริเวณที่ปวดนานประมาณ 15 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าไปในผิวหนังได้มากที่สุด ทาวันละ 3 - 4 ครั้ง
  • นอนแช่น้ำอุ่นที่ผสมน้ำชาจากโรสแมรี่หรือลาเวนเดอร์ (แต่ห้ามใช้โรสแมรี่ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์)
  • ก่อนนอน ลองดื่มน้ำชาคาโมไมล์ เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เช่นกัน
ประคบร้อนบรรเทาปวด

   วิธีการประคบด้วยความร้อนจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอได้ นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดอาการปวดได้แล้ว ความร้อนยังทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณคอมากขึ้น จึงช่วยทำให้อาการปวดคอหายเร็วขึ้นได้ เริ่มจาก
  1. แช่ผ้าขนหนูลงในอ่างน้ำร้อน (ไม่ถึงกับเดือด) พับทบแล้วบิดหมาดๆ
  2. คลี่ผ้าออกวางพาดไหล่และคอหรือประคบตรงตำแหน่งที่ปวด คลุมด้วยผ้าแห้งอีกชั้น แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำวันละ 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ วิธีดังกล่าวอาจเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าน้ำร้อนแทนได้เช่นกัน
ท่าบริหารคออย่างง่าย

   บริหารคอตามขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยคอได้ โดยนั่งให้สบายบนเก้าอี้ หายใจช้าๆ และสม่ำเสมอ ทำตามแต่ละท่าซ้ำ 6 รอบ ก่อนบริหารท่าถัดไป
  1. ก้มและเงยศีรษะ ค่อย ๆ ก้มหน้าให้คางจรดกับอก แล้วเงยกลับขึ้นช้าๆ ให้มากที่สุด
  2. ตะแคงซ้ายขวา หน้าตรงค่อยๆ ตะแคงซ้ายจนหูจรดไหล่ซ้าย โดยไม่ยกหรือเอียงไหล่ แล้วตะแคงขวาในลักษณะเดียวกัน
  3. หันหน้าซ้ายขวา หมุนศีรษะหันหน้าไปทางซ้ายช้า ๆ โดยให้ปลายคางอยู่ในแนวเดียวกับไหล่ แล้วหมุนกลับมาด้านขวาช้าๆ
   ที่สำคัญ ท่าบริหารคอทั้งสามท่านี้ ควรเริ่มต้นโดยเคลื่อนไหวช้าๆ และระมัดระวัง อย่าหักโหม และหากมีอาการปวดมากๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรักษาให้ถูกต้อง แล้วอาการปวดคอจะ ไม่เป็นเหตุทำให้คุณต้องเดินคอแข็งทั้งวันเหมือนนายวัฒน์กันอีกต่อไปค่ะ

แหล่งข้อมูล นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 221

No comments:

Post a Comment